นวัตกรรม FIR คืออะไร

FIR หรือ ฟาร์ อินฟราเรด (Far infrared) คือ คลื่นพลังงานช่วงระดับไมครอนที่ 8-12 ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ถูกค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ ชื่อ เซอร์วิลเลียม เฮอร์เชล ในปี ค.ศ.1800 งานวิจัยของเขานำไปสู่การค้นพบว่าไม่ใช่มีเพียงคลื่นแสงที่มองเห็นที่รู้จักกัน คือ สีแดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้าและม่วง เท่านั้น แต่ยังมีคลื่นพลังงานที่มีอยู่ในธรรมชาติในรูปแบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งมีชื่อว่า อินฟราเรด ซึ่ง FIR คือรังสีที่ทำให้สุขภาพดี ตอบสนองกับการสังเคราะห์แสง สามารถแทรกซึมเข้าไปในวัตถุจำนวนมาก  อีกทั้งเทคโนโลยี FIR ยังได้รับรางวัลจากงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมนานาชาติ 2018 ที่ กรุงโซล ประเทศเกาหลี อีกด้วย

กระบวนการทำงานของ FIR คืออะไร

FIR เป็นคลื่นพลังงานที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตและมนุษย์ (Growth Radiation) มีผลต่อเนื่องกับน้ำ โดยเฉพาะน้ำกว่า 70 % ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในร่างกายมนุษย์ โดยทำให้โมเลกุล ของน้ำแยกตัวเป็นอิสระ หรือสลายแรงยึดเหนี่ยวที่เกาะกันแน่น เป็นกลุ่มที่เล็กลงประมาณ 5-6โมเลกุล ทำให้น้ำเคลื่อนไหวได้มากขึ้น เป็นอิสระขึ้น ฟาร์ อินฟราเรด จะช่วยให้การเหนี่ยวนำสารอาหารและออกซิเจนไปยังเซลล์ได้เร็วขึ้น ทำให้เซลล์มีการฟื้นตัว ผลิตพลังงาน สร้างภูมิต้านทาน ผลิตเซลล์ใหม่ๆ พร้อมช่วยให้การขับถ่ายของเสียและสารตกค้างได้มากขึ้น ช่วยระบบไต และตับไม่ต้องทำงานหนัก ส่งผลดีต่อสุขภาพ

นวัตกรรม FIR มาใช้กับธุรกิจอาหารเสริม

อย่างที่บอกไปว่านวัตกรรม FIR เป็นนวัตกรรมที่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพโดยกระตุ้นโมเลกุลสารต่างๆ ให้เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น แน่นอนว่าหากนำ FIR ไปใช้เพิ่มในสารสกัดต่างๆ เช่น สารสกัดที่ช่วยเพิ่มในการเผาผลาญในร่างกาย แน่นอนว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารสกัดให้ทำงานได้ดีกว่าไม่มี FIR แน่นอน

นวัตกรรม FIR มาใช้กับธุรกิจเครื่องสำอาง

เช่นเดียวกันหากนำนวัตกรรม FIR นี้ไปใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เช่น โฟมล้างหน้า ครีมบำรุงผิว เซรั่ม หรือ โลชั่น เป็นต้น เชื่อได้เลยว่านวัตกรรม FIR จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารสกัดมาใช้กับคนได้อย่างดีที่สุด เช่น หากนำมาใช้กับเซรั่มหรือโลชั่น ฟาร์ อินฟราเรด FIR จะช่วยให้การดูดซึมและเข้าถึงผิวได้อย่างรวดเร็วกว่าผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่ไม่มี FIR แน่นอน

นวัตกรรม FIR คืออะไร

FIR หรือ ฟาร์ อินฟราเรด (Far infrared) คือ คลื่นพลังงานช่วงระดับไมครอนที่ 8-12 ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ถูกค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ ชื่อ เซอร์วิลเลียม เฮอร์เชล ในปี ค.ศ.1800 งานวิจัยของเขานำไปสู่การค้นพบว่าไม่ใช่มีเพียงคลื่นแสงที่มองเห็นที่รู้จักกัน คือ สีแดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้าและม่วง เท่านั้น แต่ยังมีคลื่นพลังงานที่มีอยู่ในธรรมชาติในรูปแบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งมีชื่อว่า อินฟราเรด ซึ่ง FIR คือรังสีที่ทำให้สุขภาพดี ตอบสนองกับการสังเคราะห์แสง สามารถแทรกซึมเข้าไปในวัตถุจำนวนมาก  อีกทั้งเทคโนโลยี FIR ยังได้รับรางวัลจากงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมนานาชาติ 2018 ที่ กรุงโซล ประเทศเกาหลี อีกด้วย

กระบวนการทำงานของ FIR คืออะไร

FIR เป็นคลื่นพลังงานที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตและมนุษย์ (Growth Radiation) มีผลต่อเนื่องกับน้ำ โดยเฉพาะน้ำกว่า 70 % ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในร่างกายมนุษย์ โดยทำให้โมเลกุล ของน้ำแยกตัวเป็นอิสระ หรือสลายแรงยึดเหนี่ยวที่เกาะกันแน่น เป็นกลุ่มที่เล็กลงประมาณ 5-6โมเลกุล ทำให้น้ำเคลื่อนไหวได้มากขึ้น เป็นอิสระขึ้น ฟาร์ อินฟราเรด จะช่วยให้การเหนี่ยวนำสารอาหารและออกซิเจนไปยังเซลล์ได้เร็วขึ้น ทำให้เซลล์มีการฟื้นตัว ผลิตพลังงาน สร้างภูมิต้านทาน ผลิตเซลล์ใหม่ๆ พร้อมช่วยให้การขับถ่ายของเสียและสารตกค้างได้มากขึ้น ช่วยระบบไต และตับไม่ต้องทำงานหนัก ส่งผลดีต่อสุขภาพ

นวัตกรรม FIR มาใช้กับธุรกิจอาหารเสริม

อย่างที่บอกไปว่านวัตกรรม FIR เป็นนวัตกรรมที่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพโดยกระตุ้นโมเลกุลสารต่างๆ ให้เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น แน่นอนว่าหากนำ FIR ไปใช้เพิ่มในสารสกัดต่างๆ เช่น สารสกัดที่ช่วยเพิ่มในการเผาผลาญในร่างกาย แน่นอนว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารสกัดให้ทำงานได้ดีกว่าไม่มี FIR แน่นอน

นวัตกรรม FIR มาใช้กับธุรกิจเครื่องสำอาง

เช่นเดียวกันหากนำนวัตกรรม FIR นี้ไปใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เช่น โฟมล้างหน้า ครีมบำรุงผิว เซรั่ม หรือ โลชั่น เป็นต้น เชื่อได้เลยว่านวัตกรรม FIR จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารสกัดมาใช้กับคนได้อย่างดีที่สุด เช่น หากนำมาใช้กับเซรั่มหรือโลชั่น ฟาร์ อินฟราเรด FIR จะช่วยให้การดูดซึมและเข้าถึงผิวได้อย่างรวดเร็วกว่าผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่ไม่มี FIR แน่นอน