ในช่วงเดือนเมษายนของแต่ละปีถ้าให้พูดถึงปัญหาแสงแดดก็คงเป็นสิ่งที่น่ากังวลใจสำหรับสายท่องเที่ยวหรือสายกิจกรรมกลางแจ้งไม่ใช่น้อย แต่สิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือครีมกันแดดที่ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB จากแสงแดดที่ร้อนแรงระอุ แต่จะดีกว่าไหมถ้าหากว่าเราเลือกที่จะทาครีมกันแดดให้สม่ำเสมอ และใน 1 วัน เราควรทาทุกๆกี่ชั่วโมง และในวันนี้ ทางโรงงาน ZEN BIOTECH จะเผยว่า ในการเลือกทากันแดดต้องดูอะไรบ้างในครีมกันแดดและควรทาทุกกี่ชั่วโมงใน 1 วัน

สิ่งที่ควรเลือกใช้ในการทาครีมกันควรดูอะไรบ้าง ?

1. ควรเลือกครีมกันแดดที่ มีค่า SPF ที่สูง : แท้จริงแล้ว ค่า SPF ในครีมกันแดดมีตั้งแต่ SPF15 จนไปถึง SPF 50 กันเลยทีเดียว แต่ถ้าจะให้เราแนะนำเราขอแนะนำว่าควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มาค่า SPF 50 เนื่องจากว่า ยิ่งค่า SPF สูงก็จะสามารถกรองแสงแดดได้ถึง 98% และป้องกันได้ทั้งผิวที่ไหม้หรือผิวแก่กว่าวัย และยังสามารถป้องกันมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย
2. ควรเลือกครีมเลือกกันแดดที่ป้องกันรังสี UVA และ UVB : ในเวลาที่เราเลือกใช้ครีมกันแดดที่ป้องกัน รังสี UVA และ UVB นอกจากนี้ไม่ได้แค่ป้องกันผิวไหม้ แต่ยังช่วยไปถึงปัญหาริ้วรอยและโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วย โดยจะสังเกตเห็นกันแดดที่มีทั้ง UVA และ UVB ได้จากฉลากบนผลิตภัณฑ์ที่ระบุไว้ว่า Broad-Spectrum
3. ควรเลือกกันแดดที่สามารถกันน้ำได้ : เราควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่สามารถกันน้ำได้ซึ่งถือว่าเป็นข้อแนะนำว่าควรหามาใช้มาก เนื่องจากว่า เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ซึ่งในทุกกิจกรรมนั้นย่อมมีเหงื่อออกมาอยู่ตลอดเวลาดังนั้นเราจึงควรมองหากันแดดที่กันน้ำได้เป็นต้น
4. เลือกใช้ครีมกันแดดให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว : เราควรเลือกใช้ครีมกันแดดให้เหมาะสมแก้สภาพพื้นผิวของเราให้มากที่สุด ดั้งนั้นเราจึงควรมองหาครีมกันแดดที่มีส่วนผสมจำพวกไนอาซินาไมด์ ที่ช่วยลดความหมองคล้ำ แอร์ลิเซี่ยมที่ช่วยทำให้หน้าไม่มัน หรือไฮยาลูรอนิคที่ทำให้ให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้น และวิตามินซีช่วยให้หน้ากระจ่างใส เป็นต้น

ใช้ทากันแดดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มีอะไรบ้าง ?

1. ทาครีมกันแดดก่อนไปทำกิจกรรมในที่กลางแจ้งก่อน 15-30 นาที
2. ถ้ามีกิจกรรมที่ต้องโดนน้ำหรือเหงื่อออกง่าย และควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง
3. ควรทาซ้ำ ทุก 2 ชั่วโมงเช่นกัน ถ้าหากว่าแดดแรงมาก

ดังนั้นก่อนที่เราจะออกไปลุยแดดให้เต็มที่แต่สิ่งที่เราไม่ควรพลาดเลยก็คือทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านและควรเลือก ค่า SPF 50 ขึ้นไป หรือควรเลือกให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวของเราและควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถกันน้ำได้นอกจากนี้เรายิ่งต้องควรทาครีมกันแดดในทุกๆ2ชม.ระหว่างทำกิจกรรมกลางแจ้งอีกด้วย เนื่องจากว่าจะได้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุดให้กับผิวของเรานั่นเอง